เนื้อหาวิชาเรียนเสาร์นี้ จากภควัตคีตา สู่วารีดุริยางค์ และ ไตรลักษณะของมนุษย์ในดนตรี

ป.๑ ถึง ป.๓ อังคาร ที่ ๑๒ และ พฤหัสบดีที่ ๑๔ กรกฎาคม (เช้า)

ป.๔ ถึง ป.๖ พุธที่ ๑๓ และ ศุกร์ที่ ๑๕ กรกฎาคม (เช้า)
ผู้ใหญ่ อังคารที่ ๑๒ ถึง ศุกร์ที่ ๑๕ กรกฎาคม (บ่าย) 

กลบท นกกางปีก

ภูเสียดยอดขึ้นเบียดฟ้า               ชูดอกหญ้าออกงามเด่น

โปรยน้ำพร่างชื่นฉ่ำเย็น             สร้างภาพเห็นเอิบอาบใจ

...

(จาก จารึกวัดพระเชตุพนฯ)

ถอดกลแล้วได้ดังนี้

ภูเสียดยอดยอดเสียด ขึ้นเบียดฟ้า          ชูดอกหญ้าหญ้าดอกออกงามเด่น

โปรยน้ำพร่างพร่างน้ำชื่นฉ่ำเย็น           สร้างภาพเห็นเห็นภาพเอิบอาบใจ

บทกวีบทนี้ เมื่อถอดกลแล้วเห็นอะไร จุดเด่นอยู่ที่ "กลบท" เหมาะสำหรับการปรับปลุกสัมพันธ์ระหว่าง การดำเนินชีวิต (ภายนอก) และการเข้ามาพิจารณา เห็นชีวิตที่ผ่านไป (ประสบการณ์ที่ก้องอยู่ภายใน) แต่มันไม่หนักหน่วง ตรงกันข้าม เบา ๆ ดิ่งดูได้อย่างไม่กดทับ ไม่กักขัง ทว่า เมื่อจะก้าวต่อไป กลับออกไปข้างนอกอีกครั้ง อาศัยพลังเหวี่ยงสักหน่อย


กลบท เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งในบรรดาลักษณะคำประพันธ์ ที่บทประพันธ์ สะท้อนสภาวะของจิตมนุษย์ ที่เหมาะกับเด็กวัย ๙ ขวบขึ้นไป วัยที่เริ่มคิดคุยในใจ

เช่นเดียวกับดนตรี ลักษณะคำประพันธ์มีจังหวะที่บ่งถึงท่วงทำนองการขับร้อง และลักษณะการหายใจ เช่นเดียวกับดนตรี ที่แตกต่าง คือมีคำที่แสดงถึงความคิด ความรู้สึก การมองภายนอก และภายใน และมีสัมผัสสระ สัมผัสอักษร อันเป็นความงามของภาษา แต่ที่สำคัญ แสดงออกถึงพลัง

ด ในบทกวีข้างต้น แสดงลักษณะเด่นอย่างชัดเจน คือ "เด่น" ด เมื่อเราเฝ้าออกเสียงและฟังสิ่งที่ปรากฏในใจ รู้สึกได้ว่า บางสิ่งแยกตนออกมา เด่น โดด เดี่ยว เดือน เป็นพลังการ "แยกแยะ" "ตระหนักสิ่งที่โดดออกมา" และมีน้ำหนัก สามารถมีสภาวะที่เป็นสสารหนัก มีแก่นแท้ที่รวมศูนย์ เป็นต้น ดังนั้น ด เชื่อมโยงกับสิ่งที่สัมปชัญญะเข้าไปจับได้ เพียงเสียง ด เสียงเดียวก็เป็นเสียงที่งานศิลปะ และสื่อศักยภาพหรือธรรมชาติของมนุษย์ 

ยูริธมี่ เป็นวิชาการเคลื่อนไหวกับพลังต่าง ๆ ในธรรมชาติ หรือพลังที่สร้างและยังให้เกิดธาตุ ผ่านเสียง เช่น พลังรวมศูนย์และให้ความมั่นคง อย่างเสียงตัวสะกด แม่กบ กก กบ กน กด หรือ พลังเคลื่อนที่ให้สภาวะอุ่น และเสียงไร้โครงสร้างขอบเขต อย่าง ฟ ฮ ส ...

และเสียงภาษามนุษย์ ก็ย่อมมีความรู้สึก เสียงสระเดี่ยว คู่ สระสามเสียง ที่อาศัย ว เพิ่มเข้ามา อย่าง (เ-ียว มาจาก สระ -ี -า -ู )  ก็เป็นดังดนตรี สะท้อนความรู้สึกภายในของมนุษย์


วิชายูริธมี่กับคำประพันธ์ สิ่งสำคัญเด่น ๆ นอกจากเนื้อหาสารพันอื่น ๆ คือ 

๑. เสียงพยัญชนะกับเสียง สระที่สื่อ ชีวิต (พลังเคลื่อนไหว) ความรู้สึก และ จินตนาการ

๒. ลักษณะคำประพันธ์ที่ โยงใยกับจังหวะหายใจ บทกวีมีไว้สำหรับขับร้อง มีคำ จังหวะ สัมผัสสระ สัมผัสอักษร วรรค พยางค์ ครุ หลุ เป็นต้น ทุกอย่างประกอบกันได้ภาพและความรู้สึกของผู้ประพันธ์

เด็ก ๆ เรียนยูริธมี่ โดยไม่ต้องตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้ แต่ครูเลือกลักษณะคำประพันธ์กับเสียงที่เหมาะกับวัย และที่สำคัญ ให้เด็ก ๆ เคลื่อนไหวร่างกายอย่างเปี่ยมด้วยความรู้สึกที่มากับจินตนาการ อย่างอยู่บนพื้นฐานของธรรมชาติการเคลื่อนไหวที่แท้ของเสียงต่าง ๆ 

ยูริธมี่ สำหรับเด็ก
ป.๑ ถึง ป.๖

ดังเช่นวิชาศิลปะทุกแขนง เป็นช่วงเวลาที่ยังให้เกิด “แรงบันดาลใจ” “เมล็ดพันธุ์บ่มเพราะ” สำหรับยูริธมี่ ปลุกภาพในใจและเคลื่อนไหวกับสิ่งนั้น ภาพในใจที่เด็ก ๆ สร้างเอง จากประสบการณ์ตรง อันเป็นจุดเริ่มต้นของการปลุกจิตให้ตื่นจากภายใน (ตรงข้ามกับการถูกกระตุ้นจากภายนอก)  ดังเช่น การจำ การคิดต่อยอด การคิดที่มี “ตัวความคิดและมีผู้คิด” วิชายูริธมี่ ปลุก “ผู้คิด” และผู้คิดนี้คือผู้ที่ “ตื่น” ต่อสิ่งที่ปรากฏในใจ (ความคิดที่เข้ามา และความรู้สึก) และ ตื่นต่อความตั้งใจ ที่มาของความตั้งใจและการกระทำของตน

อนึ่ง ทำให้เคลื่อนไหวร่างกายอย่างมีจังหวะหายใจที่ทั่วท้องและทั่วถึง เคลื่อนไหวคนเดียว ปลุกตัวเอง เคลื่อนไหวกันหลาย ๆ คน ปลุกสัมปชัญญะต่อผู้อื่นด้วย ความรู้สึกต่อ "ความกลมกลืน" "ทำด้วยกัน พร้อม ๆ กัน" เช่นเดียวกับการเล่นดนตรี ร้องเพลงประสานเสียงนั่นเอง 

วันอังคารที่ ๑๒  และ พฤหัสบดีที่ ๑๔ กรกฎาคม

ป. ๑         ๙.๓๐-๑๐.๐๐ น.

ป. ๒         ๑๐.๑๕-๑๐.๔๕ น.

ป. ๓         ๑๑.๐๐-๑๑.๔๕ น.

วันพุธที่ ๑๓ และ ศุกร์ที่ ๑๕ กรกฎาคม

ป. ๔           ๙.๓๐-๑๐.๑๕ น. 

ป. ๕           ๑๐.๓๐-๑๑.๑๕ น.

ป. ๖           ๑๑.๓๐-๑๒.๑๕ น.

สำหรับผู้ใหญ่

วันอังคาร พุธ พฤหัส ๑๒-๑๔ กรกฎาคม      เวลา ๑๔.๓๐-๑๖.๐๐ น.

วันศุกร์ที่ ๑๕ กรกฎาคม                             เวลา ๑๔.๓๐-๑๗.๓๐ น. (พัก ๒๐ นาที)

เป้าหมาย มาทำความรู้จัก "การเคลื่อนไหวจากเสียง" 
ปลุก "ผู้ที่สามารถเห็นความคิด เห็นการเคลื่อนไหวของใจและกายเรา" 
สัมผัสความงามของงานประพันธ์ภาษาไทย  
เห็นการเชื่อมโยงกับธรรมชาติกาย และใจ จากสารัตถะของ “เสียง” ที่เป็น “ปรากฏการณ์” ของ “ลมปราณ” 
ปลุกสัมผัสใจ
อาจเข้าใจลึกซึ้งขึ้นถึงคำว่า อรรถรส และค้นพบความงามของบทกวี และความจริงในธรรมชาติที่ซ่อนอยู่ในแต่ละคำได้ด้วยตนเอง

สี่คาบ สั้นนัก หวังเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ สำหรับผู้ที่ไม่เคยเรียน และสำหรับผู้ที่เรียนแล้ว ได้ฝึกฝนการฟังและการเคลื่อนไหวระดับ "พลัง" ลึกซึ้งขึ้น

ยูริธมี่ เปิดใจ ฟัง นิ่ง ดิ่ง สนุก ลื่นไหล ค้นพบ ... "ขับขานด้วยการเคลื่อนไหว..แสดงออก !"


น่าจะเป็นช่วงเวลาที่อย่างน้อยทำให้เชื่อมโยงกับตนเองลึกซึ้งขึ้น และตื่นเท่าทันการเคลื่อนไหวของใจและการคิด 

สนใจสมัครโปรดติดต่อโรงเรียนไตรพัฒน์

ค่าเข้าอบรม เด็ก ๕๐๐ บาท

ผู้ใหญ่ ๒,๐๐๐ บาท 

(ไม่มีอาหารว่างค่ะ เตรียมกันมานะคะ)